Header Ads

Digital Healthcare ผลักดันไทยสู่ Medical Hub

Health Tech  นวัตกรรมคือคันเร่งให้ประเทศไทยเกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New S-Curve) โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการแพทย์ เพื่อตอบโจทย์การผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติและการแพทย์ครบวงจร (Medical Hub)

อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพและการแพทย์มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากตลาดเครื่องมือแพทย์จากทั่วโลกที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วกว่าร้อยละ 6.4 ต่อปี  ทำให้ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องมือแพทย์เป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพต่อเศรษฐกิจ ไทยจึงได้กำหนดเรื่อง การแพทย์และสาธารณสุขไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยให้เป็นหนึ่งในเป้าหมายอนาคตของไทย ในปี 2579 เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ และส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือที่รู้จักกันในนาม Medical Hub


'Innovation in Health' ได้กล่าวถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่จะนำไปสู่ทิศทางในอนาคตว่ามีอยู่ 3 ส่วนด้วยกันคือ

การแพทย์แม่นยำ (Precision Medicine) เป็นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลร่วมกับเทคโนโลยีชีวโมเลกุล มีการนำ Big Data มาใช้ประโยชน์ในการวินิจฉัยโรค เลือกวิธีการรักษา และทำนายผลการรักษาได้แม่นยำขึ้น

การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เป็นการนำเอาเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร มาช่วยเพิ่มศักยภาพ การดูแลรักษาได้ในหลายบริบทที่มีข้อจำกัดและเพิ่มความเท่าเทียมให้ผู้ป่วยทุกระดับ

การแพทย์แห่งอนาคต (Future Medicine) เป็นการนำเอาเทคโนโลยีการแพทย์ใหม่ๆ มาใช้เพื่อ อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน โดยเทคโนโลยีที่คาดว่าจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงหรือมีอิทธิพลต่อเครื่องมือแพทย์ในอนาคต


ที่สำคัญยังเป็นหลักประกันถึงความมั่นคงทางสุขภาพและการแพทย์ของประชาชนคนไทยในโลกที่เราอาจจะต้องอยู่ร่วมกับโควิด-19 ต่อไป พร้อมๆ กับการสร้างความพร้อมในการรับมือกับโรคอุบัติใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อในอนาคต


 จากวิกฤติของโรคระบาดโควิด-19 ประเทศไทยได้แสดงให้ประชาคมโลกเห็นเป็นประจักษ์ว่า ระบบการแพทย์และสาธารณสุขนั้น เป็นหนึ่งในจุดแข็งของประเทศ พร้อมทั้งมีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นสู่ “ศูนย์กลางทางการแพทย์ของภูมิภาค”


ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์ของไทยในโลกหลังโควิด จะมุ่งเน้นการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม ที่สามารถต่อยอดไปสู่การผลิตและการใช้ประโยชน์ได้จริง สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ให้กับประเทศ พร้อมทั้งการปลดล็อคข้อจำกัดและกฎระเบียบ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น และการพัฒนายกระดับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข


ที่ผ่านมา ประเทศไทยเก่งเรื่องระบบบริการทางการแพทย์ (Medical Service) แต่ให้น้ำหนักเรื่องของการวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ (Medical Tech)ยังไม่มาก การพลิกโฉมอุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์ของไทย จึงมีเป้าหมายให้ไทยเป็น “Global Medical Hub” โดยมีประเด็นมุ่งเน้น 8 ประเด็นได้แก่





1. การรักษาเฉพาะบุคคล ( Personalized Medicine) การดูแลรักษาที่ได้ประสิทธิภาพและแม่นยำโดยเทคโนโลยีจีโนม

2. การพัฒนายาและวัคซีน (Vaccines and New Medicines) รวมถึงการบริหาร Medical Supply Chain และการส่งเสริมผู้ผลิตที่มีคุณภาพ

3. อุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ (Medical Devices) เน้นการผลิตอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ รวมถึง Assistive Devices ในยุคชีวิตวิถีใหม่

4. ระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) พัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ติดต่อกันได้แบบ Real-time ลดความแออัดของโรงพยาบาล

5. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับงานวิจัยทางคลินิก (Clinical Research Infrastructure) ผลักดันให้เกิดการวิจัยทางคลินิก ผลิตและคิดค้นยาและวัคซีนใหม่ๆ

6. สมุนไพรและการแพทย์พื้นบ้าน (Herbal and Traditional Medicine) พัฒนาตำรับและการใช้สมุนไพรไทย บรรจุสมุนไพรไทยไว้ในหลักสูตรทางการแพทย์และให้ความสำคัญการวิจัยทางคลินิก

7. โภชนเภสัช (Neutraceuticals) คิดค้น ผลิตอาหารที่มีสรรพคุณอาหารด้านการป้องกัน รักษาโรค ชะลอวัย รวมถึงอาหารสำหรับผู้สูงวัย

8. การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourism) เชื่อมต่อการบริการทางการแพทย์กับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวสำหรับผู้สูงวัย



ทั้งหมดนี้จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถเชื่อมต่อห่วงโซ่อุปทานทางด้านการแพทย์และสุขภาพได้อย่างครบวงจร จากต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ แปลงงานวิจัยและศักยภาพทางด้านสุขภาพและการแพทย์ของไทยไปเป็นพลังหลักในการขับเคลื่อน “โมเดลเศรษฐกิจ BCG” ในโลกหลังโควิด

ไม่มีความคิดเห็น